Skip to content

Interstellar Group

ในฐานะผลิตภัณฑ์การซื้อขายทางการเงินที่ซับซ้อน สัญญาส่วนต่าง Contracts for Difference (CFDs) มีความเสี่ยงสูงอย่างมากเนื่องจากคุณสมบัติของเลเวอเรจ บัญชีลูกค้าของนักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่มักบันทึกการสูญเสียเงินลงทุนในสัญญาส่วนต่างอย่างรวดเร็ว คุณควรพิจารณาว่า คุณมีความเข้าใจเกี่ยวกับกฎเกณฑ์การดำเนินงานของสัญญาส่วนต่าง และสามารถรับความเสี่ยงสูงของการสูญเสียเงินลงทุนได้หรือไม่    

ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 35.95 อ่อนค่าสุดในภูมิภาค สัปดาห์หน้าจับตาปธ.เฟดแถลงนโยบายต่อสภาคองเกรส

ISG
ประกาศ

เราขอแนะนำให้คุณปฏิบัติตามประกาศทางการตลาดของเรา

.right_news

A WORLD LEADER

IN FX & CFD TRADING

ตลาด
ข่าว

ข้อมูลทางการเงินทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมงและข่าวตลาดโลก

A WORLD LEADER

IN FX & CFD TRADING

การสนับสนุน &
ความรับผิดชอบต่อสังคม

InterStellar Group มีเป้าหมายที่จะเป็นบริษัทชั้นนำ และมีพลังในการสร้างผลกระทบที่ดีต่อโลก
นอกจากนี้เรายังมุ่งมั่นที่จะตอบแทนสังคม โดยตระหนักถึงคุณค่าของทุกคนเป็นส่วนสำคัญของชุมชนระดับโลกของเรา

A WORLD LEADER

IN FX & CFD TRADING

การสัมนาสดเกี่ยวกับฟอเร็กซ์

A WORLD LEADER

IN FX & CFD TRADING

02

2024-03

Date Icon
2024-03-02
การคาดการณ์สภาวะตลาด
ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 35.95 อ่อนค่าสุดในภูมิภาค สัปดาห์หน้าจับตาปธ.เฟดแถลงนโยบายต่อสภาคองเกรส

InfoQuest – นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 35.95 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อน ค่าจากเปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 35.88 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาค และตลาดโลก เนื่องจากดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 35.85-35.99 บาท/ดอลลาร์ โดยวันนี้เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าสุดในภูมิภาค “บาททยอยอ่อนค่าต่อเนื่องหลังเปิดตลาด โดยเฉพาะในช่วงบ่าย แต่ยังไม่หลุด 36 บาท วันนี้อ่อนค่าสุดในภูมิภาค” นักบริหาร เงิน กล่าว โดยสัปดาห์หน้า จะมีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ เช่น ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม และการ แถลงนโยบายต่อสภาคองเกรส ของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันจันทร์ไว้ที่ 35.85 – 36.10 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 150.51 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 150.24 เยน/ดอลลาร์ – เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0812 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0806 ดอลลาร์/ยูโร – ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,367.42 จุด ลดลง 3.25 จุด (-0.24%) มูลค่าการซื้อขาย 49,556.62 ล้านบาท – สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 863.62 ล้านบาท – นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง แถลงวิสัยทัศน์ “IGNITE THAILAND, AVIATION HUB” โดยประกาศว่า จะยกระดับสนาม บินสุวรรณภูมิ ให้กลับไปติดอันดับ 1 ใน 50 ของโลกภายใน 1 ปี จากนั้นจะผลักดันให้ขึ้นไปติดอันดับ 20 ของโลกภายในเวลา 5 ปี จาก ก่อนหน้านี้ในปี 2548 สนามบินสุวรรณภูมิ เคยอยู่ในอันดับที่ 13 ของโลก แต่ปัจจุบันตกมาอยู่อันดับที่ 68 – สิ้นสุดการเปิดรับลงทะเบียน “หนี้นอกระบบ” ของกระทรวงมหาดไทยไปแล้ว หลังรัฐบาลเปิดให้ลงทะเบียนมาตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 66 โดยพบว่าเมื่อสิ้นสุดวันที่ 29 ก.พ.67 มีประชาชนลงทะเบียนรวมทั้งสิ้น 151,175 ราย มูลหนี้ 11,732 ล้านบาท ไกล่เกลี่ย สำเร็จ 18,509 ราย มูลหนี้ลดลง 771 ล้านบาท – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนก.พ.67 อยู่ที่ระดับ 48.8 เพิ่มขึ้นเล็ก น้อยจากระดับ 48.0 ในเดือน ม.ค.67 ตามการเพิ่มขึ้นของความเชื่อมั่นด้านการผลิต การจ้างงาน และผลประกอบการเป็นสำคัญ – รัฐบาลจีน เปิดเผยว่า รายได้ประชาชาติ (GNI) เฉลี่ยต่อคนของจีน ปรับตัวลงในรูปของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้ง แรกในรอบ 29 ปีในปี 2566 ซึ่งฉุดจีนลงจากเกณฑ์ของธนาคารโลก ในการเป็นประเทศที่มีรายได้สูง ทั้งนี้ รายได้ประชาชาติเฉลี่ยต่อคน ของจีนลดลง 0.1% สู่ระดับ 12,597 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และเงินหยวนอ่อนค่าลง – ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้าย ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 46.5 ในเดือนก.พ.67 จากระดับ 46.6 ใน เดือนม.ค. ซึ่งสูงกว่าการประมาณการเบื้องต้นที่ระดับ 46.1 แต่ยังคงต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งกิจกรรมการผลิตของยูโรโซน ยังคงหดตัวอย่าง ต่อเนื่องในเดือนก.พ. ท่ามกลางอุปสงค์ที่ซบเซา แม้ว่าบรรดาบริษัทจดทะเบียนจะคาดการณ์แนวโน้มเชิงบวกในปีหน้าก็ตาม – อินเดียได้อนุมัติการสร้างโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ 3 แห่ง ซึ่งมีเม็ดเงินลงทุนมากกว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย ความเคลื่อนไหวนี้ เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายของอินเดียในการเป็นศูนย์กลางที่สำคัญในการผลิตชิป – ผู้อำนวยการบริหารของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า อินเดียจะเป็นประเทศเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุด ในโลกได้ไม่ยาก เนื่องจากผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 ขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 ไตรมาส โดยแตะ ที่ระดับ 8.4% พร้อมคาดว่าปีนี้ อินเดียมีแนวโน้มการเติบโตประมาณ 8% – สำนักงานสถิติแห่งชาติของอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อของอินโดนีเซีย ในเดือนก.พ.อยู่ที่ 2.75% ซึ่งสูงกว่า การคาดการณ์ โดยมีสาเหตุหลักมาจากราคาอาหารที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) ตั้งเป้าที่จะรักษาอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ ระหว่าง 1.5-3.5% ในปีนี้

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ล่าสุด
ข่าว